อยากบันทึกประสบการณ์ที่ได้ เก็บไว้ก่อนจะลืมครับ
ในทีมมีเพื่อนผมและรุ่นพี่อีกคน(ซึ่งผมไม่รู้จักมาก่อน) เค้ามีไอเดีย มี business model กันอยู่พอสมควร สิ่งที่เค้าอยากให้ผมไปช่วยคือ ให้ไปช่วยทำ prototype สำหรับรอบถัดไป ซึ่งก็คือ วันเสาร์-อาทิตย์นั้นเลย!! กระชั้นชิดมาก
พวกเรานัดคุยกันเย็นวันถัดไป คุยทำความเข้าใจ และวางแผนว่าเราต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ด้วยความที่มันเป็นการแข่ง Mobile Application Startup แต่ตัวผมเองเขียน UI บน Mobile App ไม่เป็นซักนิด (เศร้าใจ) เขียนเป็นแต่ตัวภาษา Obj-C กับ Java เพราะงั้น คืนนั้นผมเลยต้องรีบศึกษา Sencha Touch 2 หลักสูตรเร่งรัด ฮ่าฮ่า
คืนวันศุกร์ นั่งงม นั่งปั้น prototype ให้ขึ้นมาได้ซักหน้าสองหน้า ไม่ได้ทำงานแบบเร่งๆ ดึกๆดื่นๆแบบนี้มานานแล้ว
เช้าวันถัดมา เป็นวันจริงวันแรก งานจัดที่ Microsoft Thailand
- งานเป็นลักษณะที่ ทั้ง 25 ทีมจะนั่งอยู่ตามโต๊ะ ในห้องใหญ่ๆ ห้องเดียวกันครับ แล้วก็นั่งทำงานไป เตรียม slide ทำนุ่นทำนี่ไป ตลอดทั้งวัน
- โดยจะมีพี่ๆ mentor ทีมีประสบการณ์และประสบความสำเร็จ มา coach ให้ในวันนี้ แล้วแต่ละทีมสามารถเชิญ mentor แต่ละท่าน มานั่งคุยด้วยได้ ปรึกษา เล่าไอเดียให้ฟัง ซึ่งมีประโยชน์มากๆๆเลยครับ ชอบตรงนี้มาก ได้มุมมอง วิธีการคิดและจุดที่เราต้องสนใจ ที่เราไม่เคยคิดถึงหลายอย่างเลย
- ในงานจัดในลักษณะค่อนข้างเป็นกันเองมาก ทางผู้จัดพยายามจะ build ให้เป็น startup community ขึ้นมาให้ได้ แต่ละทีมก็มีปรึกษา คุยๆ แลกเปลี่ยนกันอยู่พอสมควรเลยล่ะครับ
- ได้ยินว่า หลังจากมี mentor เข้าไปคุยด้วยแล้ว บางทีมถึงขั้น pivot ไอเดียกันเลย
- หลังจากรับทราบรูปแบบในการ pitch ในวันอาทิตย์ ก็พบว่ามีเวลาแค่ 12 นาที เท่านั้น รวมตอบคำถามแล้วด้วย ซึ่งดูจากเรื่องที่ต้องพูดแล้ว ในทีมผมตกลงกันว่าไม่ควรเสียเวลาทำ prototype ให้เสร็จแล้ว ทำเป็นรูปใน slide ก็พอ มานั่งระดมสมองเรื่อง slide และเนื้อหากันดีกว่า
- พี่โบ๊ท จาก Builk หนึ่งใน mentor ผมได้ยินชื่อเสียงมานาน พึ่งได้เจอตัวจริง ได้พูดให้คำแนะนำกับทุกทีมตอนจะจบวัน ซึ่งผมชอบมากๆ คือ "...การ present และผลของวันพรุ่งนี้ มันก็เป็นแค่เกมเกมนึง แต่เรื่อง business และอนาคตต่อจากนี้ มันก็เป็นอีกเรื่อง..."
- งานเลิกสี่โมง ทีมผมออกมาหาที่ทำงานต่อ กว่า slide จะเสร็จ กว่าจะซ้อม ก็พอใจกันตอน เที่ยงคืน ก็รู้สึกเหนื่อยมากแล้ว และวันรุ่งขึ้นก็ ขึ้น present เป็นทีมแรกๆด้วย ก็เลยแยกย้ายครับ
วันอาทิตย์ งานจัดที่เดิม ห้องเดิมครับ
- วันนี้ ทั้งวันจะเป็นการ pitch ของแต่ละทีม จุดที่น่าสนใจคือ เป็นการ pitch แบบเปิดห้องครับ ทุกทีมจะได้นั่งฟังทีมอื่นๆ pitch ไปพร้อมๆกับกรรมการ ที่นั่งอยู่ตรงกลาง วันนี้เค้าไม่มีโต๊ะให้ทำงานแล้ว และเค้าไม่ให้เปิด notebook ด้วย นั่งฟังกันไปตลอดทั้งวัน เหนื่อยเหมือนกันครับ
- ทีมผม ได้คิวในช่วงเช้าเลย การ pitch ก็ถือว่าไม่สะดุด แต่ออกจะใช้เวลานานกว่าที่ซ้อมกันไว้ ทำให้เหลือเวลาให้กรรมการถามน้อยไปหน่อย แต่ก็ผ่านไปได้ครับ
- pitch เสร็จก็ชิว นั่งฟังของทีมอื่นๆ ไปเรื่อย สนุกดีครับ ได้เห็น idea ของแต่ละทีม ได้เห็นวิธีการ pitch และหัวข้อที่แต่ละทีมเลือกมานำเสนอและการเรียงลำดับ ในวันแรก mentor ท่านนึงแนะนำว่า จะดีที่สุด เราจะต้อง knock กรรมการให้ได้ใน 3 สไลด์แรก
- จุดที่น่าสนใจสำหรับผมอย่างนึงคือ มันเป็นการ present ที่เป็นผุ้ใหญ่ขึ้น จริงจังมากขึ้น แตกต่างจากการ present โครงการในการแข่งขันเขียนโปรแกรมในระดับนักศึกษาที่ผมผ่านๆมา ที่มักเน้นที่ทำอะไรมา ทำงานยังไง มีประโยชน์อะไร
- หลายๆทีมตั้งเป็นบริษัทเรียบร้อยแล้ว บางทีมมีลูกค้าแล้ว launch บน app store เรียบร้อยแล้ว ไม่ได้มาด้วยแค่ idea อย่างเดียว
- อีกจุดนึงที่น่าสนใจคือ ใน 25 ทีม มีทีมที่มีไอเดียใกล้เคียงกันหรือตลาดใกล้ๆกัน อยู่หลายคู่เหมือนกัน เช่นเกี่ยวกับหุ้น เก็บข้อมูล survey หรือเกี่ยวกับระบบคิวและการจ่ายตังค์ตามร้านค้า
- บางไอเดียที่เห็นในงาน ก็เป็นไอเดียเก่าแก่ครับ เห็นกันมาตั้งแต่ Samart Innovation Award สมัยก่อน ฮ่าฮ่า เช่นระบบคิวหน้าร้านอาหาร แต่ก็ยังไม่มีคนเอามาทำจริงๆจังๆ หรือทำสำเร็จให้เห็นซักที
- นอกจากเรื่องไอเดีย เรื่อง business แล้ว หลายๆทีมก็ต้องพยายามแสดงให้เห็นด้วยว่า AIS จะเข้าไปมีส่วนสนับสนุน ตัวธุรกิจของทีมได้ยังไง ตรงนี้น่าสนใจมากเหมือนกันครับ เพราะบางทีมไอเดียโอเค แนวคิดทางธุรกิจก็ดูโอเค แต่ถ้าจะเริ่มด้วยตัวเอง มันยากมากๆ หลายๆไอเดียเป็นปัญหาไก่กับไข่ แต่ถ้าได้ AIS ช่วยสนับสนุน มันจะช่วยเปิดตลาดได้มากเลยทีเดียว
- Stockguru (ผ่านเข้ารอบ)
- ไอเดียคร่าวๆคือ เป็นแอพให้ แมงเม่า เลือก follow เซียนหุ้นทั้งหลายได้ หรือจะตั้งตัวเป็นเซียนเองก็ได้ แล้วเซียนก็ predict ราคาหุ้นออกมา แล้วรันกันบน virtual money แมงเม่าก็จะเห็น prediction เห็นผลลัพธ์ว่า เซียนคนไหนผลงานดี/ไม่ดียังไงครับ
- TripPacker (ผ่านเข้ารอบ)
- คร่าวๆที่ผมจำได้คือ เป็นระบบรวบรวมข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ทั้งรูปภาพ โรงแรม สัญญาณมือถือ บลาๆ ที่ผมคิดว่าน่าสนใจคือ ทีมงานเค้าเน้นที่คุณภาพข้อมูลครับ
- ถ้าใครเคยจัดทริปน่าจะรู้ว่า ข้อมูลพวกนี้ ปัจจุบันก็ยังสะเปะสะปะมาก เชื่อถือได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
- ตอน pitch พี่เค้าบอกว่า เค้าถึงขนาดใช้เวลา 2 ปีที่ผ่านมา ออกไปเก็บข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วประเทศด้วยตัวเอง เพื่อคุณภาพ กรรมการท่านนึงบอก "มันไม่ lean เลยนะครับ ทำแบบนี้" ฮ่าฮ่า
- จริงๆ ไม่ได้คุยกับพี่เค้า แต่อยากถามพี่เค้าเหมือนกันว่า เค้าจะจัดการเรื่องข้อมูลล้าสมัยยังไง เพราะผมเจอบ่อยมากเวลาจัดทริป
- Venue
- เป็นแอพให้ข้อมูลในงาน event ต่างๆ นึกภาพ ไปงานหนังสือแล้วเราไม่ต้องไปเอาใบปลิวหรือหาว่าบูทสำนักพิมพ์นี้อยุ่ตรงไหน แต่ดูในแอพเอาได้เลย
- นี่เป็นไอเดียอันนึงที่คนคิดกันเยอะนะ แต่ก็ยังไม่มีคนทำจริงๆจังๆ ให้เห็นในไทยซักที เราก็ยังเห็นใบปลิว ว่อนกันอยู่ในงาน event ต่างๆ
- Bicycle
- เป็นแอพ online class platform ครับ มีอาจารย์มาอัดคลิปสอนวิชาต่างๆ แล้วก็มีนักเรียนเข้าแอพมานั่งดูนั่งเรียน
- Storyme
- เป็นแอพ ที่พยายามทำให้ รูปภาพทั่วไป มี interactive มากขึ้นครับ tag จุดต่างๆของรูปแล้วมี action และข้อมูลกับจุดที่ tag ได้ ถ้ามีภาพตัวอย่างให้ดูคงเข้าใจ แต่ผมไม่มี ฮ่าฮ่า
- Noonswoon (ผ่านเข้ารอบ)
- ผมรู้สึกว่า ทีมนี้เป็นตัวเต็งอันดับต้นๆในงานเลย
- ในแอพ ทุกๆเที่ยงวัน จะมีรูปผู้หญิงคนนึง ขึ้นมาให้ดู 3 รูป โดยผู้หญิงคนนี้จะอยู่ในเมืองเดียวกับคุณ คุณทำได้สองอย่างคือ กด Like หรือ Pass ถ้าบังเอิญคุณ กด Like แล้ว ฝั่งผู้หญิงก็กด Like คุณเหมือนกัน คุณก็จะ chat กับเค้าได้ และอาจจะชวนไปกินข้าวต่อได้
- ผมว่าจุดที่น่าสนใจมากๆ คือ เค้าตั้งใจกำหนดให้ มันเห็นได้แค่วันละครั้งและเฉพาะตอนเที่ยงเท่านั้น มันทำให้ดูน่าตื่นเต้นขึ้นมากเลยครับ
- สาเหตุของเวลาเทียงวัน คือ จะได้ชวนกันไปดินเนอร์ตอนเย็นได้
- FourLeaf
- ดูวิดิโอใน Link ละกันนะครับ แต่ผมว่างานเค้ามีประโยชน์มาก ตอน pitch ก็แน่นมาก
- FineSeat
- ระบบจองที่นั่งร้านอาหาร
- MuffinTale
- ขายของที่เน้น design/idea/fasion โดยฝีมือ designer คนไทย
อ่านแล้ว
ReplyDelete