April 2, 2013

AIS The Startup Weekend 2013

อยากบันทึกประสบการณ์ที่ได้ เก็บไว้ก่อนจะลืมครับ

เมื่อวันพุธที่แล้ว จู่ๆ เพื่อนผมคนนึง ก็แชทมากลางดึก และเล่าว่าทีมเค้าพึ่งผ่านเข้ารอบ 25 ทีมสุดท้าย ของการแข่งขัน AIS The Startup Weekend ซึ่งตอนนั้น ในทีมมีอยู่แค่ 2 คนซึ่งน้อยเกินไป เลยอยากจะชวนผมเข้าร่วมทีมด้วย  ส่วนตัวผมสนใจรายการนี้อยู่แล้ว แต่ไม่สะดวกจะฟอร์มทีมและไม่มีไอเดียเจ๋งๆอยู่ในหัวเลย เลยปล่อยผ่านไป แต่จู่ๆ มีโอกาสวิ่งเข้ามา เลยวู่วาม ลองดูซะหน่อยละกัน อยากเปิดหูเปิดตา

ในทีมมีเพื่อนผมและรุ่นพี่อีกคน(ซึ่งผมไม่รู้จักมาก่อน) เค้ามีไอเดีย มี business model กันอยู่พอสมควร สิ่งที่เค้าอยากให้ผมไปช่วยคือ ให้ไปช่วยทำ prototype สำหรับรอบถัดไป ซึ่งก็คือ วันเสาร์-อาทิตย์นั้นเลย!! กระชั้นชิดมาก

พวกเรานัดคุยกันเย็นวันถัดไป คุยทำความเข้าใจ และวางแผนว่าเราต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ด้วยความที่มันเป็นการแข่ง Mobile Application Startup แต่ตัวผมเองเขียน UI บน Mobile App ไม่เป็นซักนิด (เศร้าใจ) เขียนเป็นแต่ตัวภาษา Obj-C กับ Java  เพราะงั้น คืนนั้นผมเลยต้องรีบศึกษา Sencha Touch 2 หลักสูตรเร่งรัด ฮ่าฮ่า

คืนวันศุกร์ นั่งงม นั่งปั้น prototype ให้ขึ้นมาได้ซักหน้าสองหน้า ไม่ได้ทำงานแบบเร่งๆ ดึกๆดื่นๆแบบนี้มานานแล้ว

เช้าวันถัดมา เป็นวันจริงวันแรก งานจัดที่ Microsoft Thailand
  • งานเป็นลักษณะที่ ทั้ง 25 ทีมจะนั่งอยู่ตามโต๊ะ ในห้องใหญ่ๆ ห้องเดียวกันครับ แล้วก็นั่งทำงานไป เตรียม slide ทำนุ่นทำนี่ไป ตลอดทั้งวัน
  • โดยจะมีพี่ๆ mentor ทีมีประสบการณ์และประสบความสำเร็จ มา coach ให้ในวันนี้ แล้วแต่ละทีมสามารถเชิญ mentor แต่ละท่าน มานั่งคุยด้วยได้ ปรึกษา เล่าไอเดียให้ฟัง ซึ่งมีประโยชน์มากๆๆเลยครับ ชอบตรงนี้มาก ได้มุมมอง วิธีการคิดและจุดที่เราต้องสนใจ ที่เราไม่เคยคิดถึงหลายอย่างเลย
  • ในงานจัดในลักษณะค่อนข้างเป็นกันเองมาก ทางผู้จัดพยายามจะ build ให้เป็น startup community ขึ้นมาให้ได้ แต่ละทีมก็มีปรึกษา คุยๆ แลกเปลี่ยนกันอยู่พอสมควรเลยล่ะครับ
  • ได้ยินว่า หลังจากมี mentor เข้าไปคุยด้วยแล้ว บางทีมถึงขั้น pivot ไอเดียกันเลย 
  • หลังจากรับทราบรูปแบบในการ pitch ในวันอาทิตย์ ก็พบว่ามีเวลาแค่ 12 นาที เท่านั้น รวมตอบคำถามแล้วด้วย ซึ่งดูจากเรื่องที่ต้องพูดแล้ว ในทีมผมตกลงกันว่าไม่ควรเสียเวลาทำ prototype ให้เสร็จแล้ว ทำเป็นรูปใน slide ก็พอ มานั่งระดมสมองเรื่อง slide และเนื้อหากันดีกว่า
  • พี่โบ๊ท จาก Builk หนึ่งใน mentor ผมได้ยินชื่อเสียงมานาน พึ่งได้เจอตัวจริง ได้พูดให้คำแนะนำกับทุกทีมตอนจะจบวัน ซึ่งผมชอบมากๆ คือ "...การ present และผลของวันพรุ่งนี้ มันก็เป็นแค่เกมเกมนึง แต่เรื่อง business และอนาคตต่อจากนี้ มันก็เป็นอีกเรื่อง..." 
  • งานเลิกสี่โมง ทีมผมออกมาหาที่ทำงานต่อ กว่า slide จะเสร็จ กว่าจะซ้อม ก็พอใจกันตอน เที่ยงคืน ก็รู้สึกเหนื่อยมากแล้ว และวันรุ่งขึ้นก็ ขึ้น present เป็นทีมแรกๆด้วย ก็เลยแยกย้ายครับ

วันอาทิตย์ งานจัดที่เดิม ห้องเดิมครับ
  • วันนี้ ทั้งวันจะเป็นการ pitch ของแต่ละทีม จุดที่น่าสนใจคือ เป็นการ pitch แบบเปิดห้องครับ ทุกทีมจะได้นั่งฟังทีมอื่นๆ pitch ไปพร้อมๆกับกรรมการ ที่นั่งอยู่ตรงกลาง วันนี้เค้าไม่มีโต๊ะให้ทำงานแล้ว และเค้าไม่ให้เปิด notebook ด้วย นั่งฟังกันไปตลอดทั้งวัน เหนื่อยเหมือนกันครับ
  • ทีมผม ได้คิวในช่วงเช้าเลย การ pitch ก็ถือว่าไม่สะดุด แต่ออกจะใช้เวลานานกว่าที่ซ้อมกันไว้ ทำให้เหลือเวลาให้กรรมการถามน้อยไปหน่อย แต่ก็ผ่านไปได้ครับ
  • pitch เสร็จก็ชิว นั่งฟังของทีมอื่นๆ ไปเรื่อย สนุกดีครับ ได้เห็น idea ของแต่ละทีม ได้เห็นวิธีการ pitch และหัวข้อที่แต่ละทีมเลือกมานำเสนอและการเรียงลำดับ ในวันแรก mentor ท่านนึงแนะนำว่า จะดีที่สุด เราจะต้อง knock กรรมการให้ได้ใน 3 สไลด์แรก
  • จุดที่น่าสนใจสำหรับผมอย่างนึงคือ มันเป็นการ present ที่เป็นผุ้ใหญ่ขึ้น จริงจังมากขึ้น แตกต่างจากการ present โครงการในการแข่งขันเขียนโปรแกรมในระดับนักศึกษาที่ผมผ่านๆมา ที่มักเน้นที่ทำอะไรมา ทำงานยังไง มีประโยชน์อะไร
  • หลายๆทีมตั้งเป็นบริษัทเรียบร้อยแล้ว บางทีมมีลูกค้าแล้ว launch บน app store เรียบร้อยแล้ว ไม่ได้มาด้วยแค่ idea อย่างเดียว 
  • อีกจุดนึงที่น่าสนใจคือ ใน 25 ทีม มีทีมที่มีไอเดียใกล้เคียงกันหรือตลาดใกล้ๆกัน อยู่หลายคู่เหมือนกัน เช่นเกี่ยวกับหุ้น เก็บข้อมูล survey หรือเกี่ยวกับระบบคิวและการจ่ายตังค์ตามร้านค้า
  • บางไอเดียที่เห็นในงาน ก็เป็นไอเดียเก่าแก่ครับ เห็นกันมาตั้งแต่ Samart Innovation Award สมัยก่อน ฮ่าฮ่า เช่นระบบคิวหน้าร้านอาหาร แต่ก็ยังไม่มีคนเอามาทำจริงๆจังๆ หรือทำสำเร็จให้เห็นซักที
  • นอกจากเรื่องไอเดีย เรื่อง business แล้ว หลายๆทีมก็ต้องพยายามแสดงให้เห็นด้วยว่า AIS จะเข้าไปมีส่วนสนับสนุน ตัวธุรกิจของทีมได้ยังไง ตรงนี้น่าสนใจมากเหมือนกันครับ เพราะบางทีมไอเดียโอเค แนวคิดทางธุรกิจก็ดูโอเค แต่ถ้าจะเริ่มด้วยตัวเอง มันยากมากๆ หลายๆไอเดียเป็นปัญหาไก่กับไข่ แต่ถ้าได้ AIS ช่วยสนับสนุน มันจะช่วยเปิดตลาดได้มากเลยทีเดียว

หลังจากฟังการ pitch ทั้ง 25 ทีม ซึ่งสุดท้ายจะถูกคัดเหลือ 5 ทีม ผมก็ลองนั่งเลือกทีมที่ผมคิดว่าน่าสนใจบ้าง (ไม่ได้เรียงตามอะไรนะครับ)
  • Stockguru (ผ่านเข้ารอบ)
    • ไอเดียคร่าวๆคือ เป็นแอพให้ แมงเม่า เลือก follow เซียนหุ้นทั้งหลายได้ หรือจะตั้งตัวเป็นเซียนเองก็ได้ แล้วเซียนก็ predict ราคาหุ้นออกมา แล้วรันกันบน virtual money แมงเม่าก็จะเห็น prediction เห็นผลลัพธ์ว่า เซียนคนไหนผลงานดี/ไม่ดียังไงครับ
  • TripPacker (ผ่านเข้ารอบ)
    • คร่าวๆที่ผมจำได้คือ เป็นระบบรวบรวมข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ทั้งรูปภาพ โรงแรม สัญญาณมือถือ บลาๆ ที่ผมคิดว่าน่าสนใจคือ ทีมงานเค้าเน้นที่คุณภาพข้อมูลครับ 
    • ถ้าใครเคยจัดทริปน่าจะรู้ว่า ข้อมูลพวกนี้ ปัจจุบันก็ยังสะเปะสะปะมาก เชื่อถือได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
    • ตอน pitch พี่เค้าบอกว่า เค้าถึงขนาดใช้เวลา 2 ปีที่ผ่านมา ออกไปเก็บข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วประเทศด้วยตัวเอง เพื่อคุณภาพ กรรมการท่านนึงบอก "มันไม่ lean เลยนะครับ ทำแบบนี้" ฮ่าฮ่า
    • จริงๆ ไม่ได้คุยกับพี่เค้า แต่อยากถามพี่เค้าเหมือนกันว่า เค้าจะจัดการเรื่องข้อมูลล้าสมัยยังไง เพราะผมเจอบ่อยมากเวลาจัดทริป
  • Venue
    • เป็นแอพให้ข้อมูลในงาน event ต่างๆ นึกภาพ ไปงานหนังสือแล้วเราไม่ต้องไปเอาใบปลิวหรือหาว่าบูทสำนักพิมพ์นี้อยุ่ตรงไหน แต่ดูในแอพเอาได้เลย
    • นี่เป็นไอเดียอันนึงที่คนคิดกันเยอะนะ แต่ก็ยังไม่มีคนทำจริงๆจังๆ ให้เห็นในไทยซักที เราก็ยังเห็นใบปลิว ว่อนกันอยู่ในงาน event ต่างๆ
  • Bicycle
    • เป็นแอพ online class platform ครับ มีอาจารย์มาอัดคลิปสอนวิชาต่างๆ แล้วก็มีนักเรียนเข้าแอพมานั่งดูนั่งเรียน
  • Storyme
    • เป็นแอพ ที่พยายามทำให้ รูปภาพทั่วไป มี interactive มากขึ้นครับ tag จุดต่างๆของรูปแล้วมี action และข้อมูลกับจุดที่ tag ได้ ถ้ามีภาพตัวอย่างให้ดูคงเข้าใจ แต่ผมไม่มี ฮ่าฮ่า
  • Noonswoon (ผ่านเข้ารอบ)
    • ผมรู้สึกว่า ทีมนี้เป็นตัวเต็งอันดับต้นๆในงานเลย
    • ในแอพ ทุกๆเที่ยงวัน จะมีรูปผู้หญิงคนนึง ขึ้นมาให้ดู 3 รูป โดยผู้หญิงคนนี้จะอยู่ในเมืองเดียวกับคุณ คุณทำได้สองอย่างคือ กด Like หรือ Pass ถ้าบังเอิญคุณ กด Like แล้ว ฝั่งผู้หญิงก็กด Like คุณเหมือนกัน คุณก็จะ chat กับเค้าได้ และอาจจะชวนไปกินข้าวต่อได้ 
    • ผมว่าจุดที่น่าสนใจมากๆ คือ เค้าตั้งใจกำหนดให้ มันเห็นได้แค่วันละครั้งและเฉพาะตอนเที่ยงเท่านั้น มันทำให้ดูน่าตื่นเต้นขึ้นมากเลยครับ
    • สาเหตุของเวลาเทียงวัน คือ จะได้ชวนกันไปดินเนอร์ตอนเย็นได้
  • FourLeaf
    • ดูวิดิโอใน Link ละกันนะครับ แต่ผมว่างานเค้ามีประโยชน์มาก ตอน pitch ก็แน่นมาก
  •  FineSeat
    • ระบบจองที่นั่งร้านอาหาร
  • MuffinTale
    • ขายของที่เน้น design/idea/fasion โดยฝีมือ designer คนไทย

ในระหว่าง break แต่ละทีมก็ networking ยืนคุยกันพอสมควรเลยครับ ส่วนตัวผมไม่ถนัดเลยกับการเดินเข้าไปคุยกับคนไม่รู้จัก ผมก็เลยได้แต่เดินไปเดินมาหรือไปยืนฟังรุ่นพี่ในทีมคุยกับคนอื่นบ้าง อยากปรับปรุงตัวเองเรื่องนี้จริงๆ

ในช่วงที่ผ่านมา จะเห็นว่ามี startup event ในเมืองไทยให้เห็นบ่อยขึ้นเรื่อยๆครับ งานนี้เป็นงานแรก ที่ผมได้ไปร่วม และค่อนข้างประทับใจครับ ได้เห็นว่ามีคนพยายามจะตั้ง startup กันเยอะมาก นี่ยังไม่นับที่ไม่ได้มาแข่ง ตกรอบไปก่อน หรืออาจจะอยุ่ใน stealth mode อยู่ ไว้ถ้ามีโอกาส มีไอเดีย ผมคงจะหาทางไปร่วมอีกครั้งนะครับ

1 comment: